นายกฯรับข้อเสนอของผู้ใช้แรงงาน 10 ข้อไปดำเนินการ ย้ำบางข้อรัฐบาลดำเนินการให้แล้ว ที่เหลือให้กระทรวงแรงงาน และฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปกำหนดกรอบร่วมกันเพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติ

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2562 กลุ่มแรงงานนอกระบบหลายพันคน เดินขบวนจากจากสนามกีฬากองทัพบก มายังอาคารกีฬาเวสน์ 2 (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เป็นการแสดงออกเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งคำขวัญวันแรงงานแห่งชาติปี 2562 คือ แรงงานก้าวหน้าเศรษฐกิจก้าวไกล เทิดไท้องค์ราชัน โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ร่วมขบวนด้วย

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน โดยดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานและครอบครัว ให้มีความมั่นคง อาทิ การคุ้มครองสิทธิแรงงาน การยกระดับคุณภาพชีวิตและหลักประกันทางสังคมการปรับปรุงและยกระดับกฎหมายให้เทียบเคียงมาตรฐานสากล

นายทวี เตชะธีราวัฒน์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสมาพันธ์แรงงานแห่งประเทศไทย ได้ยื่นขอเรียกร้อง 10 ข้อให้ นายกรัฐมนตรี คือ 1. ให้รับรองอนุสัญญาองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ 2.ให้เร่งนำร่องพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ ฉบับแก้ไขที่ผ่านประชาพิจารณ์มาแล้ว เข้าสู่กระบวนการพิจารณาเร่งด่วน 3.ให้แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 4.ปฏิรูปแก้ไขหลักประกันสังคม ปรับฐานเงินบำนาญเริ่มต้นที่ 5000 บาท กำหนดการเกษียณอายุของลูกจ้างอยู่ที่ 60 ปี กรณีลูกจ้างมีอายุ 55 ปี ลาออก ให้นายจ้างอนุญาตให้ลาออกได้ ได้รับสิทธิเกษียณ ทุกประการ

5 ให้รวมองทุนทดแทน กับกองทุนความปลอดภัยแรงงาน ให้เร่งดำเนินการ พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ 6. ส่งเสริมให้จัดตั้ง สหกรณ์ออมทรัพย์และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 7.ให้ความคุ้มครองลูกจ้างนอกระบบ ซับคอนแทค ลูกจ้างเหมา โดยให้นายจ้างปฏิบัติตามมาตรา 11/1 8.จัดสวัสดิการกองทุน ของรัฐวิสาหกิจ ที่ยังมีสถานภาพเป็นพนักงาน และพ้นสภาพพนักงาน ให้ได้รับไม่น้อยกว่าลุกจ้างภาคเอกชนที่ได้รับตามระบบประกันสังคม 9.จัดให้มีระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมกับการดำเนินการ และ 10. แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องในวันแรงงานปี 62

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ 2562 พร้อมรับข้อเสนอ 10 ข้อ โดยย้ำว่า รัฐบาลมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยมีภาคการผลิตที่เป็นอุตสาหกรรม 4.0 และตั้งใจที่จะให้ผู้ใช้แรงงานได้เข้าถึงสิทธิ์ต่างๆอย่างทั่วถึงเท่าเทียม สำหรับข้อเรียกร้องในปีนี้ บางส่วนรัฐดำเนินการแล้ว บางส่วนอยู่ระหว่าดำเนินการ จึงมอบหมายให้ กระทรวงแรงงาน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำหนดกรอบร่วมกันให้ครอบคลุมทุกมิติต่อไป