THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

11 กรกฎาคม 2562 : 19:26 น.

"ธรรมนัส" เปิดใจไม่ได้ขนเฮโรอีนเข้าออสเตรเลีย แฉสื่ออวตารอยู่เบื้องหลังโจมตี เป็นฝ่ายตรงข้ามหวังล้มล้างรัฐบาล ลั่นไม่มีความผิดในไทยหลังผ่านพ.ร.บ.ล้างมลทิน

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่หอประชุมใหญ่ทีโอทีร.อ.ธรรมนัสพรหมเผ่า ส.ส.พะเยาพรรค พลังประชารัฐว่าที่รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ข้อกล่าวหาในเรื่องของการค้ายาที่โดนจับในประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นเรื่องโอละพ่อ ยืนยันว่าไม่ใช่คนที่นำเฮโรอีนเข้าออสเตรเลียไม่ได้เป็นผู้ผลิตยาเสพติด และไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน เริ่มจากที่ตนเดินทางไปเที่ยวนครซิดนีย์ ออสเตรเลียโดยได้รับคำเชิญจากพี่คนหนึ่ง ที่ทำงานอยู่ในป.ป.ส.ของสหรัฐฯ จากนั้นตนจึงเดินทางเข้าออสเตรเลียโดยผ่านการตรวจค้นอย่างถูกต้องทุกขั้นตอนไม่เป็นไปอย่างที่สื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลจากสื่ออวตาร ที่พยายามโจมตีอยู่ดังนั้นจึงเป็นเรื่องโอละพ่อ

“แต่ผมมีความโชคร้ายเพราะคนที่ถูกจับนั้นกลับอยู่ที่เดียวกับที่ผมอยู่ด้วย ผมจึงโดนข้อหารู้ว่ามียาเสพติดแต่ไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบ ไม่ได้โดนข้อหาผลิตยาเสพติดและนำเข้ายาเสพติดผมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหามาตลอดและถูกคุมขังประมาณ 8 เดือนจนถูกปล่อยออกมาใช้ชีวิตตามปกติในนครซิดนีย์ 4 ปีเต็มๆ ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมาประเทศไทยเพราะนายกฯเทศมนตรีนครซิดนีย์ไม่ต้องการให้คนเอเชีย ที่ตั้งตัวเป็นกลุ่มก้อนไม่มีที่พักพิงเป็นหลักแหล่งอยู่ ผมจึงถูกส่งตัวกลับมาแต่ไม่ได้มารับโทษ"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า สื่อมวลชนสามารถตรวจสอบหลักฐานต่างๆ จากศาลของออสเตรเลียได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องโอละพ่อ และถือเป็นตราบาปที่ตนไม่เคยพูดมาตลอด 30 ปี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประมาณปี 2535 หรือ 2536 แต่สื่ออวตารกลับโจมตีว่าตนต้องกลับมารับโทษในประเทศไทย และตอนนี้ตนรู้หมดแล้วว่า ใครอยู่เบื้องหลังความพยายามที่จะล้มตนให้ได้ เพราะสื่อมวลชนเองก็ทราบดีว่า ตนเป็นกำลังหลักในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีบทบาทในการขับเคลื่อนและประสานงาน หากล้มตนได้รัฐบาลก็สั่นคลอนเพราะหลายเรื่องที่ได้ประสานงานไว้นั้นถือเป็นความลับที่ตนรู้เพียงคนเดียว

"เขารู้ว่าผมเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่จะเอาเลือดไปหล่อเลี้ยงในหัวใจของรัฐบาล จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อล้มผม ผมรู้หมดแล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง และเรื่องนี้ต้องปล่อยให้กฎหมายบ้านเมืองจัดการต่อไป คนที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่คนในพรรคพลังประชารัฐ"นายธรรมนัสกล่าว

สำหรับ กรณีที่เคยถูกถอดยศมาก่อนนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้โชว์หนังสือการเลื่อนยศ โดยกล่าวว่าเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2541 กระทรวงกลาโหมได้เลื่อนยศให้ตนขึ้นเป็น ร.อ.ไม่ใช่ใช้ยศร.อ.นำหน้าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่มีคนปรามาสว่า กระทรวงเกษตรฯยุคใหม่เป็นกระทรวงมาเพีย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อยากถามว่า สามารถทำอดีตให้เป็นปัจจุบันได้หรือไม่แต่สิ่งที่จะพิสูจน์คือในอนาคต ตนจะทำอะไรให้แผ่นดินบ้างไม่ใช่เอะอะก็กล่าวหากันว่ามาเฟียคนใจนักเลงอย่างตนลองให้ได้ทำงานดูก่อน หากทำไม่ได้เรื่องแล้วจะพิจารณาตัวเองที่ผ่านมาพูดมาโดยตลอดว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมตั้งข้อสังเกตเรื่องคดีความต่างๆ จะพิสูจน์ตัวเองอย่างไร ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คีดความต่างๆเรื่องต่างประเทศได้ชี้แจงไปแล้ว สำหรับประเทศไม่มีประวัติอาชญากรรมใดๆทั้งสิ้น ถึงแม้จะถูกกล่าวหาพาดพิงเป็นเรื่องปกติที่ตนมีเพื่อนใต้บังคับบัญชาจำนวนมาก ตนเป็นคนกว้างขวางเพื่อนฝูง และเป็นคนใจกว้างบางครั้งการคบคนโน้นคนนี้ตนไม่ได้กรองดังนั้นเมื่อเขานำภัยมาหาเราตนไม่โทษไม่ใช่วิถีตน เพราะวิถีของตนต้องแก้ปัญหาให้จบด้วยตัวเองด้วยกระบวนการยุติธรรม ตนไม่เคยมีคดีค้างในชั้นศาล ตนได้ใช้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ตัวเองมาทุกเรื่องทุกสถานการณ์ และไม่เคยละเมิดกฎหมาย และชีวิตของตนผ่านพรบ.ล้างมลทินมาหลายฉบับแล้ว เคยสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อกับพรรคการเมืองหนึ่ง หากไม่มีการรัฐประหารครั้งที่แล้วก็คงได้เป็นส.ส.ทำไมถึงไม่มีปัญหาแต่ทำไมถึงมีปัญหาในครั้งนี้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ฝากสื่อมวลชนไปศึกษาเรื่องพ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2550 จะตอบโจทย์เรื่องตนทั้งหมดโดย เฉพาะมาตรา 4 ให้ล้างมลทินแก่ผู้บรรดาต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2550 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ ให้ถือว่าผู้นั้นมิถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ ซึ่งถือว่าชัดเจนและตนไม่มีความผิดโดยที่เฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่า ถูกปลดออกจากราชการข้อหาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งไม่เกี่ยวกับคดีที่ออสเตรเลีย

เมื่อถามว่า หากในอนาคตมีการยื่นตรวจสอบคุณสมบัติจะหนักใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าการตรวจสอบคุณสมบัติมีมาแล้วหลายขั้นตอน ตั้งแต่ลงสมัครส.ส.กว่าประชาชนจะเลือกตั้งผ่านมาหลายขั้นตอนแล้ว โดยเฉพาะกกต.และเรื่องของตนไม่ใช่เรื่องแรกผ่านหลายขั้นตอนมาแล้วจึงไม่กังวลอะไรแต่จะเป็นเพียงวาทกรรมที่มีการพูดกันของสื่อมวลชนโดยเฉพาะเพจอวตาลอีกนาน

"ยืนยันว่าผมหนักแน่นพอกับเรื่องพวกนี้ชั่วหรือไม่ชั่วจริยธรรมคือสิ่งที่อยู่ในใจเรา รู้ตัวเองว่าเราทำอะไรอยู่และก็ไม่กังวลว่าใครจะมาตรวจสอบคุณสมบัติ ผมไม่ได้ห้ามและก็ไม่กังวลว่าใครจะมาตรวจสอบคุณสมบัติ แต่ถ้าใครจะมาตรวจสอบผมและสุดท้ายผมไม่มีความผิดคุณก็ต้องพร้อมที่จะถูกดำเนินดคี ผมฟ้องกลับแน่นอน"ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ