THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

10 กันยายน 2562 : 19:42 น.

อัยการฟ้องแล้ว’ปุ๊กกี้ ชาลาลา’-แฟนหนุ่มกับแก๊งค้ายา อดีตนักร้องคนดังสารภาพเฉพาะข้อหาค้ายาไต้หวัน ปฏิเสธฟอกเงินศาลเบิกตัวมาสอบคำให้การเช้า 11 ก.ย.

เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 10 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายหง เจิ้ง อี้ อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน,นายชลวิทย์ หรือไก่ คีตะตระกูล อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.ปริศนา หรือ พริสซิลลา จิวเมลลี่ หรือ ปุ๊กกี้ ชาลาลาอายุ 40 ปี อดีตนักร้องสาวชื่อดัง,นายกันต์ธร หรือ มิว แก้วกระจ่าง อายุ 28 ปี และน.ส.ธาริณี หรือไหม ขาวบัณฑิต อายุ 27 ปี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

นอกจากนั้น ยังมีข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภทที่ 2 ไว้มในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,เสพเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ประมาณปลายเดือน เม.ย.- 17 มิ.ย.2562 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งห้ากับพวก ได้สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นผู้จัดหา ครอบครองเก็บรักษายาเสพติดให้โทษ ลำเลียงยาเสพติดให้โทษ หาลูกค้าที่ต้องการยาเสพติดและเป็นเครือข่ายดำเนินการจัดการเกี่ยวกับด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติด

โดยมี นายหวัง หยิง ซิน หรือโทนี่พวกของจำเลยเป็นผู้สั่งการ ส่วนนาย จง ยวีเลียง, นายหลีเจิ้นหยา, นายเหลียงเกิ่งเจีย, นายศักดิ์ชัย มหรสุขเจริญ ที่หลบหนีทำหน้าที่ลำเลียงขนยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บรักษาขนลำเลียงยาเสพติดเพื่อส่งไปยังประเทศไต้หวัน ส่วนจำเลยที่ 2และ3 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดแล้วนำไปให้จำเลยที่ 1 ทำธุรกรรมด้านการเงิน

ส่วนจำเลยที่ 4 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดและนำมามอบให้จำเลยที่ 2 และ3 เพื่อทำธุรกรรมด้านการเงิน ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นผู้ให้การช่วยเหลือดำเนินการจัดการเกี่ยวกับทางด้านการเงิน โดยใช้บัญชีธนาคารของผู้อื่นในการฝาก-ถอนเงิน โดยจำเลยทั้งห้าได้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทยฯ จำนวน 4 บัญชี เพื่อรับโอนเงินที่ได้มาจากการซื้อขายยาเสพติด จำนวน 450,000 บาท จำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งโอนเงินจากการซื้อขายยาเสพติดอีกจำนวน 500,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง อันเป็นการซุกซ่อนที่มา หรือปกปิดที่มาของทรัพย์สิน นอกจากนี้ จำเลยทั้งห้ากับพวกยังได้ร่วมกันมีคีตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ชนิดผลึกสีขาว จำนวน 4.980 ก.ก.เศษ

ต่อมาพวกจำเลยยังได้ร่วมกันมี เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ชนิดเกล็ดผลึกสีขาว 11 ซอง และชนิดเม็ด 8 เม็ด และ3,4 เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง และอื่นๆ รวมทั้งที่เขี่ยบุหรี่ จำนวน 39 ชิ้น ที่พวกจำเลยใช้ซุกซ่อนยาเสพติด โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 5 เครื่อง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และยึดเป็นของกลางเหตุเกิดที่ แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง และแขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.เกี่ยวพันกัน ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1และ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ให้การรับสารภาพในข้อหาอื่น ส่วนจำเลยที่ 4 และ 5 ให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำฟ้อง พนักงานอัยการโจทก์ ระบุด้วยว่า หากจำเลยทั้งห้าขอปล่อยชั่วคราว โจทก์ขอคัดค้าน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและยาเสพติดของกลางมีปริมาณมาก เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี ศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ย.2036/2562 และเบิกตัวจำเลยทั้งห้าจากเรือนจำมาสอบคำให้การในวันที่ 11 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ