THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

14 พฤศจิกายน 2562 : 14:26 น.

ดีเอสไอค้น 5 โรงงานปุ๋ย 3 จังหวัดอ้างผลิตปุ๋ยชีวภาพ ออแกนิค แต่ลักลอบผสม “พาราควอต-ไกลโพเซต” ขายผ่านโซเซียคาดความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่สำนักงานเทศบาลตำบลสามโคก จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ได้ลงพื้นที่ จ. ปทุมธานี เข้าตรวจค้นแหล่งผลิตพาราคอตและไกลโพเซต ขอบริษัทสมาร์ทไบโอเทค คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัทวีไอพี คิงดอม 999 จำกัด ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อประชาชน ตามที่ได้รับการร้องทุกข์ผ่านศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข

ทั้งนี้ ในชั้นสืบสวนของกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ดีเอสไอ พบว่า บริษัททั้ง 2 แห่ง ได้นำสารพาราควอตไดคลอไรด์ และไกลโพเซต-ไอโซโพรพิลแอมโมเนียม ซึ่งเป็นสารควบคุมตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมให้เป็นวัตถุอันตราย แต่บริษัททั้ง 2 แห่ง กลับนำมาผสมกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพอินทรีย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และขายผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย จัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ ทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพหรือปุ๋ยออแกนิคที่ไม่มีผลต่อสุขภาพ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตราย

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ดีเอสไอได้นำหมายค้นจากศาลและกระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายพร้อมกัน 5 จุด นครราชสีมา 2 จุด นนทบุรี 2 จุด และปทุมธานี 1 จุด เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ฐาน ผลิต หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐานผลิตหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับ คดีนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นน่าเชื่อว่ามีความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป และมีผู้ได้รับผลกระทบจากวัตถุอันตรายดังกล่าวมากว่า 1,000 ราย นอกจากนี้ อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ปุ๋ย เนื่องจากมีการผลิตปุ๋ยเพื่อการค้า โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือไม่ได้รับอนุญาต อันเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 57 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิด ตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 เนื่องจากมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย

ด้านนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยภายหลังการตรวจค้นว่า ผลการตรวจค้นเบื้องต้นในพื้นที่บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่พบถังผสมปุ๋ย และเอกสาร ส่วนที่จ.นครราชสีมา เข้าค้นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และโรงงานผลิต ขณะที่ในพื้นที่จ.ปทุมธานี เป็นโกดังเก็บวัตถุอันตราย ซึ่งดีเอสไอจะยึดอายัดเครื่องจักร ถังผสม และผลิตภัณฑ์ส่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบว่ามีสารอันตรายหรือไม่ รวมถึงจะตรวจสอบเอกสารที่พบว่ามีแหล่งที่มาจากไหน

อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการพบว่ามีส่วนผสมของพาราควอตและไกลโพเซต จะออกหมายเรียกหรือหมายจับเจ้าของบริษัทมาแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเป็นการแอบอ้างจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชีวภาพ แต่มีส่วนผสมของสารอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสั่งฟ้องต่อไป ในส่วนของเกษตรกรที่ซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้โดยไม่ทราบข้อเท็จจริงก็จะถือเป็นผู้เสียหายเช่นกัน

ว่าที่ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า พาราควอตและไกลโพเซตเป็นสารเคมีอันตราย ดีเอสไอพบว่า บริษัททั้ง 2 ราย นำวัตถุอันตรายมาลักลอบผลิตและจำหน่ายโดยหลอกลวงว่า เป็นสารชีวภาพ ที่ผ่านมาดีเอสไอได้ล่อซื้อและนำของกลางไปตรวจพิสูจน์พบว่ามีสารเคมีอันตรายผสมอยู่จริง จึงนำมาสู่การตรวจค้นและจับกุม

ทั้งนี้จากผลการวิจัยทางการแพทย์พบว่าในประเทศไทยมีผู้ป่วยจากสารพาราควอตปีละ 5,000 ราย ในจำนวนดังกล่าวประมาณ 10% หรือ 500 รายจะเสียชีวิต เนื่องจากมีอาการแพ้รุนแรง นอกจากนี้ผู้บริโภคยังต้องได้รับเคมีปนเปื้อนในผักและผลไม้ ต้องตายผ่อนส่งกับพาควอต รัฐบาลจึงต้องดำเนินการางคดีให้ถึงที่สุด

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ