ส.ส.เพื่อไทยกรีดเลือดตัวเองกลางสภาขณะอภิปรายญัตติเพื่อหาทางออกให้ประเทศ จี้นายกฯให้ลาออกถามจะเป็นทรราชย์หรือจะเป็นวีรบุรุษ ต้องปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลจ้าละหวั่น

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมร่วมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกประเทศในช่วงเย็น หลังจากรัฐมนตรีหลายคนได้ลุกขึ้นชี้แจงตอบข้อสงสัยของสมาชิกแล้ว นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้คิวอภิปรายประเด็นการชุมนุมของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาลใช้ความรุนแรง และอยากให้นายกรัฐมนตรี ลงมารับฟังปัญหาของเด็กๆ ด้วยตัวเอง มีหลายเรื่องอยากพูดและคิดแล้วว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง ตนเป็นส.ส.มาตั้งแต่ปี 2529 รักสภา มิบังอาจที่จะทำอะไรให้สภามีอันเสื่อมเสีย

อย่างไรก็ตาม แต่วันนี้ตนคิดไม่ออกว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ไม่อยากให้เด็กๆ ต้องเลือดตกยางออก สิ่งที่ตนเรียกร้องในวันนี้อาจจะผิดข้อบังคับการประชุมสภา แต่ตนต้องทำ ตนขออนุญาตกรีดเลือดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เห็นว่า ตนตั้งใจจริง ๆ และขออนุญาตประธานรัฐสภาให้เป็นตัวอย่างสุดท้ายอย่าให้มีอีก 3 แผล เอาไปเลย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นทรราชย์หรือจะเป็นวีรบุรุษ

ทั้งนี้ หลังจากนายวิสารพูดจบได้ถอดเสื้อสูทออกแล้วถกแขนเสื้อ พร้อมทั้งใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมากรีดไปที่ท้องแขนข้างซ้ายของตัวเอง 3 ครั้ง ท่ามกลางความตกใจของสมาชิก ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้นรีบกล่าวห้ามว่า ไม่อนุญาตให้กรีดเลือด

จากนั้น นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม ขึ้นอภิปรายต่อได้ไม่นาน นายสมชาย แสวงการ สมาชิก ส.ว. ได้ใช้สิทธิ์ลุกขึ้นหารือทันทีว่า ขอให้ประธานใช้ข้อบังคับข้อ 5 เพราะมีหลายเรื่องไม่สบายใจ เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดการประชุมซึ่งมาหาทางออกร่วมกัน แต่มีสมาชิกเอาอาวุธเข้ามาในห้องประชุม เพื่อเฉือนตัวเอง อาจมีตัวอย่างนำไปเลียนแบบในการชุมนุมได้ จึงอยากให้ประธานพิจารณาว่า จะประชุมต่อ หรือจะยุติการชุมนุม

ขณะที่ ประธานรัฐบาล ชี้แจงว่า การประชุมจะดำเนินต่อ ไม่มีเหตุให้ต้องยุติ ได้พยายามห้ามแล้ว แต่เป็นความประสงค์ของผู้ที่จะทำ เป็นเรื่องที่ห้ามยาก ทุกคนไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุปสรรคของส่วนรวม จึงขอดำเนินการประชุมต่อ จากนั้น นายชวน ได้ประสานให้เจ้าหน้าพยาบาลเข้ามาทำแผลพร้อมนำตัวนายวิสาร มาปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ห้องพยาบาลของสภา เบื้องต้นพบว่าบาดแผลลึกมากและมีถึง 3 แผล ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบุตรเขย ได้เดินทางไปด้วย โดยออกจากรัฐสภาในเวลา 18.05 น.