THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

08 มิถุนายน 2564 : 20:07 น.

3 ส.ส.ภูมิใจไทย 1 ส.ส.พลังประชารัฐมีหนาวถูกป.ป.ช.ลงมติฟันเสียบบัตรแทนกันระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบปี 63 พร้อมส่งดำเนินคดีอาญาและฟันจริยธรรมร้ายแรง

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำรวนกรณี ส.ส. 8 คน ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย(ภท.) 4 คน คือ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง นางนาที รัชกิจประการ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ นายภูมิศิษฐ์ คงมี ส.ส.พัทลุง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) 3 ราย คือ นางภริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม. และนายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังท้องถิ่นไท 1 ราย คือ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์เสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายฉลอง นายภูมิศิษฐ์ นางนาที กรณีเสียบบัตรแทนกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่บัญญัติไว้ว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคดีอาญา ป.ป.ช.จะส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีความผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่ง ป.ป.ช.จะส่งให้ศาลฎีกาโดยตรง

ขณะที่ น.ส.ภริม นายทวิรัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน ไม่มีพฤติการณ์ เนื่องจากพยานระบุว่า เห็นแค่ถือบัตร 2 ใบแต่ไม่เห็นว่ามีการเสียบบัตรแทนกัน จึงไม่ผิดทั้งอาญาและไม่ผิดจริยธรรม แต่ผิดเฉพาะข้อบังคับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งเรื่องไปยังประธานรัฐสภาดำเนินการ ส่วนอีก 2 รายคือ นายสมบูรณ์ และ นายโกวิทย์ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป เนื่องจากพยานหลักฐานไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังมีมติชี้มูล น.ส.ธนิกานต์ กรณีฝากบัตรให้ผู้อื่นเสียบแทนระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 แม้น.ส.ธนิกานต์จะอ้างว่า เหตุที่ไม่อยู่ในห้องประชุมเพราะไปร่วมงานเสวนารายการหนึ่งที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง แต่เหตุผลไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้ จึงมีมติชี้มูลในความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ที่บัญญัติไว้ว่า เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาท-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยคดีอาญา ป.ป.ช.จะส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ยังมีความผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่ง ป.ป.ช.จะส่งให้ศาลฎีกาโดยตรงเลย

ข่าวเด่น

ข่าวทั่วไทย

ข่าวที่น่าสนใจ