WORLD NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

11 ธันวาคม 2562 : 16:36 น.

เกือบ 98% ของชาวบูเกนวิลล์ ลงประชามติขอแยกตัวเป็นเอกราชจากปาปัวนิวกินี กลายเป็นประเทศน้องใหม่ของโลก

ชนพื้นเมืองบนเกาะบูเกนวิลล์ ซึ่งมีสถานะปัจจุบันเป็นดินแดนปกครองตนเองของปาปัวนิวกีนี กำลังจะมีอนาคตที่เปลี่ยนหลังจากผลการลงประชามติเอกราชที่มีการลงคะแนนไปเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ประกาศผลอย่างเป็นทางการโดยพบว่า ผู้ลงคะแนนชาวบูเกนวิลล์เกือบ 98% จากทั้งหมด 181,000 เสียง เห็นชอบการแยกตัวออกเป็นเอกราชจากปาปัวนิวกินีการลงประชามติครั้งนี้มีอยู่สองทางเลือกคือ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของปาปัวนิวกินีต่อไปแต่จะได้อิสระในการปกครองตนเองมากขึ้น หรือการเป็นเอกราชโดยสิ้นเชิงจากปาปัวนิวกินี โดยผู้ลงคะแนนเสียงจำนวน 176,928 คะแนนโหวตให้เป็นเอกราช

ขณะที่ 3,043 ต้องการให้ยังคงอยู่กับปาปัวนิวกินี แต่ได้เสรีภาพในการปกครองตนเองมากขึ้น และอีก 1,096 ไม่ออกเสียง

การลงประชามติครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพในปี 2011 ซึ่งถือเป็นการยุติสงครามกลางเมืองอันนองเลือดระหว่างชาวบูเกนวิลล์กับรัฐบาลปาปัว นิวกินี ที่ยืดเยื้อมานานนับทศวรรษจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15,500 คน

สำหรับเกาะบูเกนวิลล์ (Bougainville Island) เป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยจัดเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะโซโลมอน ถูกจัดเป็นดินแดนปกครองตนเองที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศปาปัวนิวกินี

ผลการลงประชามติขอแยกตัวเป็นเอกราชดังกล่าว จะส่งผลให้ในอนาคตบูเกนวิลล์เป็นประเทศเกิดใหม่ที่น่าจับตามองจากนักลงทุนอย่างมาก เนื่องจากเกาะแห่งนี้มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์และยังไม่รุกล้ำจากภายนอก รวมถึงกลายเป็นประเทศที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการชาติมหาอำนาจในภูมิภาคอย่างสหรัฐ จีน และออสเตรเลีย

ข่าวเด่น

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

The 1 Insight เผยกลยุทธ์มัดใจ Silver Spenders วัยเก๋าพร้อมเปย์ ชี้ทางรอดแบรนด์ยุค Complete Aged Society พร้อมเทรนด์เด่น Self-Indulgence & Health Enthusiast

LH Bank สนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท ให้แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank) (ที่ 3 จากขวา) ร่วมลงนามให้การสนับสนุนสินเชื่อจำนวน 1,950 ล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ที ที เอส พลาสติก

ข่าวที่น่าสนใจ