LIFESTYLE

โดย กองบรรณาธิการ M2F

14 มกราคม 2562 : 10:01 น.

รายได้พิสูจน์หนัง แนวหนังพิสูจน์รสนิยม Aquaman กับ 777 นะชาลีติ 2 หนังที่รายได้ช่างต่างกันลิบลับ ก็ได้พิสูจน์ใจคนดูเช่นกัน

โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความต่าง และก็เป็นความต่างที่เรียกว่า "ราวฟ้ากับเหว" ดูอย่างหนัง 2 เรื่องนี้สิ Aquaman กับ 777 นะชาลีติ ก็เกิดความต่างกัน "ราวฟ้ากับเหว" ด้านรายได้ที่เข้าฉาย 

ซูเปอร์ฮีโร่ Aquaman แห่ง DC Comics ล่าสุดกำลังฉลองรายได้ถล่มทลายและทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไปเรียบร้อย (รายได้ในอเมริกา 287.8 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ต่างประเทศ 732.4 ล้านเหรียญสหรัฐ)

ขณะที่หนังไทย 777 นะชาลีติ ที่มีเนื้อหาอิงพระพุทธศาสนา ล่าสุดถูกถอดจากโรงฉายและทุบสถิติรายได้ 4,900 บาท ยอดคนดู 43 คน ผ่าง!!! ฟังไม่ผิดหรอก หลักพันบาท ไม่ใช่พันล้าน 43 คน ไมใ่ช 4.3 ล้านคน 

Aquaman ขายความเป็นซูเปอร์ฮีโร่จ๋า โปรดักชันไม่ต้องพูดถึง เทพและอลังการ งานซีจีและวิช่วลมาเต็ม เล่าเรื่องเข้าใจง่ายในเวลาจำกัด รวมดาวนักแสดงไว้เพียบ "นิโคล คิดแมน" "แอมเบอร์ เฮิร์ด" "วิลเลียม เดโฟ"  "แพทริก วิลสัน" และพระเอกกล้ามโต "เจสัน โมมัว" ที่รับบท "อาเธอร์" แถมหนังยังได้เจ้าพ่อหนังสยองขวัญ "เจมส์ วาน" นั่่งแท่นกำกับ   

"9.5/10 คะแนน (อาเธอร์คือเจ้าชายเลือดผสม!!!) หนังโคตรพลังเปี่ยมด้วยคุณภาพส่งท้ายปีจากค่าย DC ดูจบ โอโหไออาเธอร์!! ไอเจ้าชายเลือดผสม เอาใจไป!!!" (pantip.com)  

"การเดินเรื่อง 8/10 นักแสดง 9/10 CG 20/10 เพลงประกอบ 7/10 (แต่เพลงตอนจบ เอาไป 10) แอ็คชั่น 9/10 คะแนนภาพรวม 9/10" (pantip.com) 

"ตลอดทั้งเรื่องบอกเลยห้ามกระพริบตา แสบตาก็ไม่ได้! คุณ คุณและคุณจะได้สัมผัสกับการเห็นโคตร CG แบบไม่ยั้งในระดับ โอโห!! หนังจะเร็วไปไหน ดูไม่ทัน แฮ่! CG จัดมาเต็มตั้งต้นยันหนังจบเลย หนังเต็มไปด้วยแอคชั่นแบบโคตรถึงตาถึงใจ ทั้งมุมกล้อง ท่วงท่าการสู้แต่ละซีนนี่ตราตรึงมาก อื้มหื้อ!! สุดว่ะ! สุดจนแบบอยากจะกราบพี่ผู้กำกับ เจมส์ วาน เเบบเบญจางคประดิษฐ์สัก 3 ที แบบแบมือ" (pantip.com)

"ฉากแอ็คชั่น เชื่อว่าจะได้รับการจดจำในฐานะหนังฮีโร่ ที่ใช้ มาร์เชียลอาร์ต ได้อย่างเข้าอกเข้าใจในสรีระนักแสดง คือการมิกซ์ศาสตร์การต่อสู้ทั้ง มวยปล้ำ ยูยิตสุ มวย ฯลฯ ส่งผลให้ฉากบู๊ของหนังมีพลังมาก ซึ่งถือว่า เจมส์ วาน ตัดสินใจถูกต้อง ที่ไม่ให้ฉากแอ็คชั่นมีแต่โชว์ซีจีทั้งหมด แต่สัดส่วนครึ่งๆ แบบนี้ถือว่าปลอดภัยแล้วสำหรับคอหนังฮีโร่และแอ็คชั่นมาร์เชียลอาร์ต" (beartai.com)

777 นะชาลีติ ทุนน้อยฟอร์มจิ๋ว แต่มีกำแพงหนาตรงที่พล็อตเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เล่าถึงอนุพุทธประวัติสาวกนาม พระสีวลีเถระ ผู้เจริญรอยตามคำสอนพระพุทธองค์ ผู้มีชะตาชีวิตทั้งบุญและบาป เมื่อผ่านภพชาติหลายพระองค์สมัยพระพุทธเจ้า พระโคตมะ สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงจุติ พระสีวลีเถระ ผู้เป็นเอกแห่งความอุดมสมบูรณ์ แค่นี้ก็ยากละที่จะทะลายกำแพงลงได้ ต่อให้ผู้กำกับ ไม่ใช่ "เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร" ที่เป็นผู้กำกับสายบุญ ก็ยากจะทำให้หนังอิงศาสนากระแทกใจคนดูได้ โดยเฉพาะคนไทยที่โคตรเอาใจยาก 

"ที่คิดว่ามีปัญหามากที่สุดคือนักแสดง บางคนเหมือนท่องจำบทมา บางคนออกเสียงไม่ชัด คำควบกล้ำไม่ได้ บางคนจ้างสิบ เล่นล้าน เลยไม่ค่อยเข้ากัน ใช้คำว่าน่าเสียดายมากกว่า อีกอย่างคือซีจีกับเมคอัพเข้าขั้นงง ซีจีออกไปทางตลก เมคอัพก็ตลกมาก นักแสดงที่เป็นพระพุทธเจ้าใส่หมวกไหมพรมที่ปลอมมาก แถมยิ้มตลอดเวลา พระสิวลีก็ใส่หมวกสีเนื้อคลุมหัวให้เหมือนโกนแบบเห็นรอยต่อชัดเจนมาก การมิกซ์เสียงเรียกว่าไม่โปรเลย" (pantip.com)

ฟากผู้กำกับ "เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร" ยอมรับกับฟีดแบ็คที่มีต่อหนัง 777 นะชาลีติ และไม่สนใจกับคำวิจารณ์ โดยเธอลั่นขนาดพระพุทธเจ้าก็ยังโดน

"ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เราก็เอาให้มันอยู่ตรงกลางทำให้มันเป็นซีรีส์ มีมุมมองถ่ายภาพแบบหนัง การแสดงยังคงเป็นเหมือนละคร ภาพมันก็เลยค่อนข้างออกมาเหมือนละคร แต่เราคิดว่าเราทำให้คนดูส่วนใหญ่เข้าใจในเนื้อหาของหนัง ก็ไม่อยากให้มันซับซ้อน แต่เราก็รู้นะว่าการทำงานแบบนี้อาจจะไม่แฮปปี้สำหรับคนทำหนัง เพราะว่าคุณทำออกมาได้แค่นี้เหรอ แล้วอย่านี้เรียกว่าภาพยนตร์เหรอ แต่เราต้องเข้าใจจุดประสงค์เราก่อน เราต้องการให้เด็กและเยาวชนได้ดู ดูแล้วอย่างน้อยให้มีจริยะธรรม แล้วรู้ถึงประวัติของท่าน เพราะฉะนั้นสำหรับเด็กมันต้องเป็นอะไรที่ดูแล้วเข้าใจง่ายๆ

กระแสดราม่าหรือคำวิจารณ์ต่างๆ เราก็มีเตรียมตั้งรับไว้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องของโปรดักชั่นด้วยคนโปรดักชั่นจะไม่ฟังเราอย่าว่างบน้อยหรืออะไร ก็อาจจะมีคำถามว่างบน้อยแล้วทำทำไม มันคนละความหมายกัน เราทำเพื่อเผยแผ่ เราก็เลยไม่แคร์คำวิจารณ์ เราอยากใช้ความรู้ความสามารถที่มีช่วยงานศาสนาไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นเราก็เข้าใจอยู่แล้วว่าต้องถูกวิจารณ์ ซึ่งเราก็ไม่แคร์ พระพุทธเจ้ายังเดินให้คนด่าเป็นกิโลได้เลย เราจะผ่านไปไม่ได้เหรอ เราอยากให้มองในเรื่องเจตนาในการนำเสนอมากกว่า แต่เราจะไปบังคับให้คนทั้งหมดมองแบบที่เรามองก็คงไม่ได้ แต่เรารู้ว่าเราทำอะไร เพราะฉะนั้นในสิ่งที่มันจะกระทบบ้างเล็กน้อยก็ช่างมันเหอะ ขอแค่มีสักคนที่ดูหนังแล้ว รู้สึกไม่อยากทำบาป กลัวในเรื่องของเวรกรรม แค่นี้เราก็ประสบความสำเร็จแล้ว"

WORK & LIFE

ข่าวที่น่าสนใจ