.

เป็นความจริงครับ ที่กทม.จะชะลอการจัดเก็บค่าขยะครัวเรือน 80 บาทออกไปก่อน จากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 เป็นต้นไป เนื่องจากที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกครั้ง

จากปัจจัยแวดล้อมในปัจจุบัน ทั้งด้านสถานการณ์บ้านเมือง ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายได้และภาคหนี้สินครัวเรือน ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน นอกจากนี้กทม. จะได้ไปจัดทำระบบเพื่อรองรับการชำระเงินรูปแบบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เกิดความเหมาะสม และเป็นธรรม อีกด้วย

ผมพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ก็ต้องย้ำครับว่า การปรับขึ้นค่าธรรมเนียมจัดเก็บขยะ เป็นมาตรการหนึ่งในการบริหารจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยรวมถึงสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันเช่นกัน ซึ่งก็ถือว่ามีความสำคัญมาก แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในการจัดการขยะ คือ การที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะ ไม่ใช่ว่าปรับเพิ่มค่าจัดเก็บขยะแล้ว จะสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตขยะนะครับ ต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามากขึ้นด้วย

ที่ผ่านมากทม.ได้จัดกิจกรรมส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนลดการสร้างขยะอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า จะให้เลิกทิ้งขยะเลยคงยังทำไม่ได้ แต่เราสามารถค่อยๆ ลดปริมาณขยะลงในทุกๆ วันได้ จากปัจจุบันที่ผลิตขยะคนละ 1.2 กิโลกรัมต่อวัน ลองเริ่มจากการซื้ออาหารแต่พอดีและรับประทานอาหารในแต่ละมื้อให้หมด ลดการเน่าเสีย

พร้อมทั้งคัดแยกขยะรีไซเคิลในครัวเรือน เช่น ขวดแก้ว ขวดน้ำพลาสติก เศษเหล็ก และพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า เพราะขยะพวกนี้ขายได้นะครับ และยังเป็นการลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงดูแลรักษาความสะอาดพื้นที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนใครที่เลิกใช้ถุงพลาสติกได้ยิ่งดีครับ แล้วหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำบ่อยๆ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น ปิ่นโต กล่องข้าว ขวดน้ำ และถุงผ้า แทนการใช้ถุงพลาสติกจะดีกว่า ซึ่งตอนนี้สถานประกอบการ ห้างร้านต่างๆ รวมถึงพี่น้องประชาชนจำนวนมาก ก็ตื่นตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการลดขยะจำพวกถุงพลาสติกมากขึ้น

แต่ที่น่าห่วงก็มีครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการส่งสินค้าและอาหารที่มีเพิ่มมากขึ้น ผมจึงอยากจะเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกันดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ภาชนะและบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุถาวร เช่น ถุงผ้า แก้วน้ำ หรือกล่องใส่อาหาร เพื่อลดการใช้พลาสติกทุกประเภท ซึ่งอาจจะทำให้ลดความสะดวกสบายลงไปบ้าง แต่เพื่ออนาคตของตัวเราเอง ลูกหลาน และคนที่เรารัก ก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องช่วยกันนะครับ

ถ้าเราสามารถร่วมกันลดปริมาณขยะในครัวเรือนได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน การปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมขยะในอนาคตอาจไม่จำเป็นอีกต่อไปครับ