มหาดไทยจัดสัมมนาขับเคลื่อนกลไก กรอ.ระดับนโยบายเน้นการเชื่อมโยง และบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภูมิภาคยั่งยืน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น สำนักพัฒนาและส่งเสริมการบริหารราชการจังหวัด (กรอ.) สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จัดสัมมนา "การขับเคลื่อนการบูรณาการความร่วมมือภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค (ระดับนโยบาย)" เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เป็นกลไกการขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ให้ได้รับทราบทิศทางและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนแนวนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่ที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาฯ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ประธานชมรมธนาคารจังหวัด ประธานสภาเกษตรจังหวัด รวมทั้ง ผู้แทนกระทรวง/กรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และองค์กรภาคเอกชนในส่วนกลางที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 600 คน
สำหรับ การสัมมนาฯกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานหลักในการสนับสนุน กำกับ และติดตามการทำงานของกลไก กรอ. จังหวัด และกลุ่มจังหวัด ในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจระดับพื้นที่ (Area-Based) ที่จะนำนโยบายภาครัฐส่วนกลางมาปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตามความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียในระดับพื้นที่ และเป็นไปตามทิศทางการพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เช่น การปรับเปลี่ยนจากการเกษตรแบบดั้งเดิม (Traditional Farming) ไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ที่เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี (Smart Farmer) ให้เป็นเกษตรกรแบบเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) การเป็น Smart Enterprises และ Startups ที่มีศักยภาพสูง
นอกจากนั้น การปรับเปลี่ยนจาก Traditional Services ซึ่งมีการสร้างมูลค่าค่อนข้างต่ำไปสู่ High Value Services หรือการปรับเปลี่ยนจากแรงงานทักษะต่ำไปสู่แรงงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและทักษะสูง (High Skill Value) ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยองค์ความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแนวทางการขับเคลื่อนที่สอดรับกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ ชุมชน และสังคมความเป็นอยู่ของประชาชน เพื่อให้มีการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน สอดรับนโยบาย Thailand 4.0 "มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บรรยายพิเศษเรื่อง “การขับเคลื่อนการพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค” โดยกล่าวถึงนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล และการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค รวมถึงความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในปัจจุบัน การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและโอกาสของผู้ประกอบการและภาคประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากในพื้นที่ ในลักษณะการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค โดยสร้างพลังทางเศรษฐกิจที่เกิดจากพลังของประชาชนในพื้นที่ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาส่งเสริมการทำงาน และร่วมกันสร้างนวัตกรรมชุมชน นวัตกรรมแก้จน ที่ตอบโจทย์ในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจสู่ชุมชนและประเทศชาติ
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย บรรยายพิเศษเรื่อง “การพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในวิถีแห่งการเปลี่ยนแปลง และบทบาทของภาคเอกชนในการบูรณาการความร่วมมือกับภาครัฐเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ” โดยกล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน และแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศไทยในอนาคต รวมถึงแนวทางการพัฒนาและปัญหาที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ภาค/กลุ่มจังหวัด และจังหวัด ที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญ และเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งได้เสนอความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการแรงผลักดัน ทั้งในเรื่องนโยบายจากรัฐบาลและการสนับสนุนการดำเนินการในระดับพื้นที่ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อสร้างโอกาสและศักยภาพทางการแข่งขัน ุนอกจากนี้ การสัมมนาฯ ในช่วงบ่าย ยังมีการบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับเรื่อง“การส่งเสริมตลาดการค้าและการยกระดับศักยภาพทางการแข่งขัน ทางด้านเศรษฐกิจ” โดยน.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ และเรื่อง “การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก” โดย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย มุ่งหวังว่า การสัมมนาฯ ครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพและความสามารถที่แตกต่างกัน ได้เพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน ด้วยการเชื่อมโยงในทุกระดับ และมีการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน และเสริมสร้างประสิทธิภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดกลุ่มจังหวัด และประเทศ ภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาคม และสถาบันการศึกษาในระดับพื้นที่ เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนตลอดไป
