THAI NEWS

โดย กองบรรณาธิการ M2F

22 เมษายน 2562 : 17:07 น.

อธิบดีพช.ชูภูมิปัญญาชุมชนเกาะกูด ทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และการเลี้ยงผึ้งชันโรง ทึ่งชุมชนท่าระแนะ รักษาป่าชายเลนผืนใหญ่ 2,000 ไร่ อายุกว่า 100 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่อุดมสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย นำคณะลงพื้นที่เยี่ยมชมความสำเร็จของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี และหมู่บ้านโอทอปเพื่อการท่องเที่ยว ต.เกาะกูด จ.ตราด ซึ่งมีกลุ่มพัฒนาอาชีพชุมชน หมู่ที่ 2 ต.เกาะกูด ที่ประสบความสำเร็จในการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และการเลี้ยงผึ้งชันโรง ซึ่งเป็นสินค้าโอทอปของชุมชนที่มีชื่อเสียง และเป็นภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้าน

นอกจากนั้น ได้พาไปเยี่ยมชมชุมชน “บ้านคลองเจ้า” ชาวบ้านมีความเป็นอยู่กันแบบดั้งเดิมแม้ว่าเกาะกูดจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เติบโตทุกวัน แต่ชุมชนยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเกาะกูดเอาไว้ได้อย่างเนียวแน่น โดยนายนิสิต กล่าวชื่นชมคนในชุมชนที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีของชาวเกาะกูดเอาไว้ได้อย่างดี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันฉันพี่น้อง ทั้งยังมีการบริหารจัดการภายในชุมชนอย่างแข็งแกร่ง สามารถพึ่งพาตนเองได้

นายนิสิต กล่าวว่า ชุมชนแห่งนี้มีการรวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อผลิตสินค้า OTOP จำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว เกิดเป็นรายได้กระจายไปยังคนในชุมชน อีกทั้งยังมีการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ไว้เป็นแหล่งเงินทุนให้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ จากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนทำให้บ้านคลองเจ้า ได้ร่วมกันจัดเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในบ้านคลองเจ้าขึ้น

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ยังได้นำคณะเยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ชุมชนท่าระแนะ หมู่ที่ 2 ต.หนองคันทรง อ.เมือง จุดชมธรรมชาติ (บนฝั่ง) ซึ่งเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีผืนป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าชายเลนผืนใหญ่ ขนาด 2,000 ไร่ อายุกว่า 100 ปี แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มาก เป็นแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ชาวบ้านได้อาศัยทำมาหากิน จับปู ปลา กุ้ง หอย ประมาณ 10 ปีมาแล้ว จนกลายอัศจรรย์ป่าชายเลน 1 ใน สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจ.ตราด ความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่การนั่งเรือไปลานตะบูน 10 นาที จะป่าในคลองถึง 3 ป่า คือ ป่าโกงกาง ป่าจาก และป่าตะบูน ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้เข้าไปในป่าดึกดำบรรพ์

นายนิสิต กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ขับเคลื่อนและสนับสนุน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการ “ระเบิดจากข้างใน” มาเป็นแนวทางการดำเนินงาน จนสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้และเห็นผลการขับเคลื่อน นับเป็นการพลิกโฉมครั้งใหญ่ของการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยว และการพัฒนา OTOP ช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำให้กับสังคม

“กรมการพัฒนาชุมชนได้สนับสนุนให้ชุมชนที่มีความพร้อม มีสินค้า OTOP และมีทุนหรือเสน่ห์ชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น เสนอเป็นหมู่บ้าน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ OTOP ที่โดดเด่น วิถีชีวิตอัตลักษณ์ ทุนทางวัฒนธรรม ทรัพยากรทางธรรมชาติของชุมชน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว

ข่าวเด่น

ข่าวในประเทศ

ข่าวที่น่าสนใจ