สาวมหาสารคามยิ้มแก้มปริได้ทรัพย์สินคืนกว่า 5 แสน หลังจากลงเครื่องบินแล้วลืมไว้ในรถเข็น เจ้าหน้าที่สนามบินเก็บไว้พร้อมประกาศหาเจ้าของส่งคืนสำเร็จภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ ได้เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า น.ส.วรัญญา ปักษา อายุ 39 ปี ชาวจ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากประเทศนอเวย์ มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ได้มาแจ้งว่ากระเป๋าสะพายแบบสตรีสีดำ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินหลายรายการ ทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ แหวนทองคำ แหวนเพชร เงินสดสกุลต่างๆรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท โดยลืมวางไว้ในรถเข็นกระเป๋าสัมภาระ ขณะนำกระเป๋าสัมภาระเข้าตรวจในช่องตรวจศุลกากรขาเข้าระหว่างประเทศ โดยวางไว้บนรถเข็นและลืมหยิบออกมา เมื่อกลับไปดูพบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวได้หายไป
ทั้งนี้ ผู้เสียหายจึงได้รีบเข้าแจ้งกับทางศูนย์ปฏิบัติการพิเศษท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดและช่วยติดตามทรัพย์สินคืน หลังจากที่ได้รับรายงาน จึงรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษร่วมกับฝ่ายสืบสวนของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบูรณาการออกติดตามทรัพย์สินของผู้เสียหาย
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรพบว่า หลังจากผู้เสียหายนำรถเข็นมารับกระเป๋าสัมภาระที่สายพานที่ 10 ก่อนจะเข็นกระเป๋าสัมภาระมายังทางออกศุลกากรประตู 5-6 โดยวางกระเป๋าสะพายสีดำไว้บนรถเข็น หลังจากผ่านการตรวจช่องทางของศุลกากรแล้วได้ลืมกระเป๋าดังกล่าวไว้บนรถเข็นจริง จึงได้เข้าติดตามกระเป๋าของผู้เสียหายที่บริเวณจุดตรวจสัมภาระของเจ้าหน้าที่ศุลกากร จนกระทั้งทราบว่าหลังจากที่ผู้เสียหายลืมกระเป๋าใบดังกล่าวไว้บนรถเข็น และมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรมาพบ จึงได้นำกระเป๋าใบดังกล่าวไปฝากไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นระยะ และตรวจสอบทรัพย์สินภายในกระเป๋าพบว่าทรัพย์สินทั้งหมดยังอยู่ครบ
น.ส.วรัญญา ผู้เสียหายกล่าวทั้งน้ำตาว่า ยอมรับว่าลืมกระเป๋าสะพายใบดังกล่าวจริง หลังจากเดินออกมาจากอาคารผู้โดยสารและกำลังขึ้นรถเดินทางกลับบ้านจึงมารู้ตัวว่ากระเป๋าเงินหาย ซึ่งตอนแรกตกใจมากและไม่คาดคิดว่าจะได้คืน พอตั้งสติได้จึงรีบมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยประสานให้จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายสามารถติดตามทรัพย์สินมีค่ามาส่งคืนได้ ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ซึ่งตนเองต้องขอบคุณและชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ด้านนาย กิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษที่ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการเร่งรัดติดตามทรัพย์สินจนสามารถส่งคืนให้กับผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ฝากไปยังผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในสนามบินสุวรรณภูมิ หากเกิดปัญหาสิ่งใดหรือหากหลงลืมทรัพย์สินใด ๆขอให้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางสนามบินที่ตรวจตราอยู่ภายในอาคารผู้โดยสารเพื่อเร่งประสานงานและเร่งตรวจสอบติดตามทรัพย์สินคืนให้กับผู้โดยสาร ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทำงาน 24 ชั่วโมง
