ปทุมธานี-ชาวบ้านหอบหลักฐานไปยื่นขอลงทะเบียนผู้ป่วยและครอบครองกัญชาเพื่อการรักษาโรคขณะที่สาธารณสุขยันเปิดให้แจ้งได้ถึง 19 พ.ย.ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่สาธารณสุข จ.ปทุมธานี ต.บางปรอก อ.เมืองปทุมธานี มีประชาชนชาวในจ.ปทุมธานี ไม่ต่ำกว่า 50 ราย ได้เดินทางมาแจ้งจดครอบครองกัญชาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นกันเป็นจำนวนมากตามที่ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ซึ่งแก้ไขจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 โดยเปิดโอกาสให้นำกัญชาและพืชกระท่อมไปทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และใช้รักษาโรคภายใต้การดูแลและควบคุมของแพทย์ได้
นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า หากการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ของภาคประชาชน ถูกต้องตามกฎหมาย หรือมีการออกกฎหมายมารองรับให้ทำได้อย่างมีคุณภาพ และควบคุมมาตรฐานได้ จะช่วยลดภาระรัฐบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศคือ ลดค่าใช้จ่ายบุคลากรทางการแพทย์ ลดปริมาณงาน และลดค่ายารักษาโรคในส่วนของประชาชน จะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัวผู้ป่วย ที่ต้องเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเสริมคุณภาพการให้บริการแก่ผู้ใช้บัตรทอง 30 บาทได้อีกทางหนึ่งด้วย เมื่อจำนวนผู้ป่วยไปโรงพยาบาลน้อยลง
ด้านนพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจ.ปทุมธานี กล่าว่า การแจ้งครอบครองกัญชาของผู้ป่วยที่มีกัญชาครอบครองเพื่อการรักษาอยู่แล้วก่อน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 บังคับใช้ผู้ป่วยหรือผู้แทนจะต้องมาแจ้งการมีไว้ในครอบครองหลัง พ.ร.บ.บังคับใช้ ภายใน 90 วัน หรือภายในวันที่ 19 พ.ค.นี้ โดยแจ้งได้ตามที่อยู่อาศัย ได้แก่ กทม. แจ้งที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และต่างจังหวัด แจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด