นครพนม-แม่น้ำโขงเปลี่ยนสีเป็นฟ้าครามคลายน้ำทะเลแปลกตาไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบ 50 ปี ประชาชนแห่เซลฟี่เก็บภาพความทรงจำ แต่นักวิชาการชี้สัญญาณอันตรายระบบนิเวศพัง

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.นครพนมว่า ในช่วงนี้ผลกระทบจากภัยแล้งได้สร้างปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ และเป็นที่ฮือฮาของประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาท่องเที่ยว ในพื้นที่ จ.นคพนม หลังจากระดับน้ำโขงผันผวน และมีระดับน้ำแห้งเข้าขั้นวิกฤติ ในช่วงประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำโขงเฉลี่ยต่ำสุดที่ประมาณ 1 เมตร ถือว่าต่ำสุดในรอบกว่า 50 ปี

ทั้งนี้ ทำให้หลายจุดกลางน้ำโขงในเขต อ.ท่าอุเทน อ.เมือง และ อ.ธาตุพนม เกิดสันดอนทราย เป็นพื้นที่กว้างหลาย 100 ไร่ และบางจุดมีสันดอนทรายยาวเป็นระยะทางยาวกว่า 2-3 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือข้ามฟากไทยลาว รวมถึงเกษตรกรที่ใช้น้ำในการเกษตร ริมแม่น้ำโขง ต้องมีการวางแผนสูบน้ำเพิ่มระยะทางสูบไกลขึ้น

ขณะเดียวกัน แม่น้ำโขงที่แห้งได้สร้างความฮือฮา ให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวคือเกิดปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน น้ำได้เปลี่ยนเป็นสีฟ้าคราม คล้ายน้ำทะเล ทำให้มีสีสันสวยงาม บวกกับเกิดหาดทราย ตามแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง และกลางแม่น้ำโขงบางจุด กลายเป็นความสวยสวยงามทางธรรมชาติที่ลงตัว ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยว เดินทางไปชมและเซลฟี่เป็นที่ระลึกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของนักวิชาการกลุ่มอนุรักษ์แม่น้ำโขง พบว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวถึงแม้จะสวยงาม แต่เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่า จะเกิดภัยแล้งขาดน้ำขั้นวิกฤติ เนื่องจากระดับน้ำโขงที่เป็นสีฟ้าครามคล้ายน้ำทะเล เพราะแม่น้ำโขงปริมาณต่ำ ทำให้นำนิ่ง จนเกิดการตกตะกอนใส บวกกับการทำปฏิกิริยาระหว่าง หินทราย ทำให้มองเห็นเป็นสีฟ้าคราม

นายอาทิตย์ พนาศูนย์ ประธานชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ระดับน้ำโขงผันผวนในปีนี้ถือว่าหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ส่วนปัจจัยไม่ใช่เกิดจากผลกระทบจากการสร้างเขื่อนของจีน และเขื่อนใน สปป.ลาว เท่านั้น ยังเกิดผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ หรือภาวะโลกร้อน ธรรมชาติถูกทำลาย สภาพอากาศแปรปรวน รวมถึงปริมาณฝนน้อยทิ้งช่วง ไม่ตกต้องตามฤดูกาล สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของระบบนิเวศกำลังถูกทำลาย

สำหรับ ปรากฎการณ์น้ำโขงเปลี่ยนสีเป็นสีฟ้าคราม คล้ายทะเลที่สวยงาม หลายคนมองว่า เป็นความสวยงามแปลกตา แต่หารู้ไม่ว่า นั่นคือสัญญาณอันตราย ตัวบ่องชี้ว่า ภัยแล้งวิกฤติจะมาเยือน สิ่งที่ตามมาคือ ปัญหาขาดแคลนน้ำ รวมไปถึงระบบนิเวศถูกทำลาย ปลาน้ำโขงเริ่มสูญพันธุ์ อาชีพประมง เกษตรกรขาดรายได้ ซึ่งแนวทางการแก้ไขจะต้องมีการหารือกันระดับประเทศ ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยประเทศใดประเทศหนึ่ง คนในพื้นที่ก็ต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นสำคัญ