พิษณุโลก-กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านชวนชาวบ้านบุกวัดเกาะแก้วตะโกนขับไล่"หลวงพ่อแตงโม"เจ้าอาวาสพ้นวัด อ้างมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง สุดท้ายยอมย้ายพ้นวัดป้องกันปัญหาบานปลาย

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่วัดเกาะแก้ว ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้มีชาวบ้านบ้านเกาะแก้วกว่า 50 คน นำโดยนายสมบัติ ทองเถื่อน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.จอมทอง นางสุธาสินี พรหมสิทธิ์ กำนันตำบลจอมทอง อ.เมือง นำชาวบ้านมาขับไล่พระจุฬา ชินวโร หรือ หลวงพ่อแตงโม เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว เนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยกลุ่มชาวบ้านได้ส่งเสียงขับไล่หลวงพ่อแตงโมที่บริเวณกุฎิเจ้าอาวาส พร้อมกับเข้าไปเจรจากับหลวงพ่อแตงโต ให้ทราบถึงพฤติกรรมที่ผ่านมา

นายสมบัติ ทองเถื่อน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 กล่าวว่า หลวงพ่อแตงโม เป็นเจ้าอาวาสมากว่า 14 ปีแล้ว แต่ไม่เคยพัฒนาวัดอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง จนชาวบ้านได้รวบรวมได้ถึง 24 ข้อ เช่น ไม่เอาใจใส่พัฒนาวัด ทั้งสิ่งก่อสร้าง การบูรณะปรับปรุงวัด ยุแหย่ให้ชาวบ้านแตกความสามัคคีกัน พูดเชิงท้าทายชาวบ้านให้ออกมาขับไล่โดยไม่เกรงใจใคร การไร่เรี่ยเงินชาวบ้านทำศาลา 100 ปี คนละ 5,000 บาท แต่ทำไม่สำเร็จพอชาวบ้านถาม ก็บอกให้ชาวบ้านไปขุดเสากันเอาเอง กล่าวหารยักยอกเงินเหรียญผงหลวงพ่อแจง ปี 2550 กว่า 1 ล้านกว่าบาท เป็นต้น ทำให้ชาวบ้านต้องมารวมตัวขับไล่

ด้านหลวงพ่อแตงโม ได้ชี้แจงว่า ถ้าชาวบ้านไม่อยากให้อาตมาอยู่ก็พร้อมจะย้ายออกไป เพื่อให้ชาวบ้านได้สบายใจและมีความสามัคคีเกิดขึ้นในหมู่บ้าน อาตมาขออยู่จนครบพรรษา 3 เดือน ชาวบ้านก็ไม่ให้ 3 วันก็ไม่ให้ ก็ไม่เป็นไร ขณะนี้กำลังติดต่อกับวัดใน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก เพื่อไปขอจำพรรษาต่อ ส่วนเงินที่อาตมายืมไปนั้นร่วม 2 แสนบาท ก็จะทยอยคืนภายในเม.ย.2564 ให้หมด อยากให้ชาวบ้านสบายใจไม่ต้องกังวน ส่วนเรื่องเงินในการก่อสร้างต่างๆ ก็อยากชี้แจงว่า บางส่วน เช่น ซุ้มประตูวัด อาตมาก็ออกเงินเอง ส่วนเงินผ้าป่ามีโยมรายหนึ่งที่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพใหญ่มาทำบุญ และให้ทำแบบแผนเพื่อกำหนดราคาให้ เมื่อถึงเวลาโยมคนดังกล่าว กลับมาทำบุญเพียง 8,000 บาท ข้าวของก็สั่งหมดแล้ว ก็ต้องรับใช้หนี้สิน แต่ถึงอย่างไรก็ตามอาตมาก็ไม่ได้โกรธเคืองชาวบ้านที่ออกมาขับไล่ในครั้งนี้ จะยอมออกไปโดยดี แต่ก็ต้องขนข้าวของภายในกุฎิไปด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากเจรจากันเสร็จ ชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ได้ร่วมกันย้ายสิ่งของและคัดแยกว่า ของสิ่งใดบ้างเป็นของวัด และเป็นของหลวงพ่อแตงโมง พร้อมกับแกะรูปภาพต่างๆภายในกุฏิออกมาจากพนัง หลังจากนี้ก็จะพลัดเปลี่ยนมาเฝ้ากุฎิหลวงพ่อ เพื่อป้องกันการขนของวัดออกไปด้วย ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกหลวงพ่อแตงโต ยืมเงินไปนั้นก็จะได้ทำหนังสือสัญญา เพื่อให้หลวงพ่อนำเงินมาชดใช้คืนตามกำหนด

ต่อมาพระครูประภัศร์โสตถิคุณ เจ้าคณะตำบลจอมทอง ได้เดินทางที่วัดเกาะแก้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นก็ได้อนุญาติให้หลวงพ่อแตงโม ย้ายวัดไปจำวัดที่อื่นได้ ระหว่างนี้ก็ต้องหารักษาการเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นมาแทนเป็นการชั่วคราว ตามหลักพุทธศาสนาวัดไหน ไม่มีเจ้าอาวาสในช่วงเข้าพรรษา วัดนั้นก็จะไม่มีองค์กฐินเช่นกัน ส่วนพระที่ทำการย้ายวัดช่วงเข้าพรรษาก็ทำให้พรรษาขาดเช่นกัน เบื้องต้นทางชาวบ้านได้ประชุมและมีมตินิมนต์ให้พระครูประภัศร์โสตถิคุณ เจ้าคณะตำบลจอมทอง มารักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อรอให้หาพระรูปอื่นมาเป็นเจ้าอาวาสที่แท้จริงต่อไป