นครราชสีมา-คลัสเตอร์เสิงสางลามไม่หยุดล่าสุดติดเชื้อรวม 19 รายเป็นนักเรียน 5 ราย ขณะที่ ศบค.โคราช ย้ำผู้ที่มาจากจังหวัดพื้นที่สีแดงและแดงเข้ม ต้องตรวจหาเชื้อโควิดทันที

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกน้อย ต.โนนสมบูรณ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง พร้อมทีมแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเสิงสาง ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้กับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในตำบลโนนสมบูรณ์ ภายหลังจากพบเด็กนักเรียนโรงเรียนภูริตา ชั้นอนุบาล ติดเชื้อโควิดเพิ่มเติม 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลโนนสมบูรณ์  ซึ่งทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ตีวงตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด พร้อมเร่งกักตัวเพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ

สำหรับ คลัสเตอร์โควิดเสิงสางตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงสูงวัยอายุ 68 ปี คาดว่าน่าจะติดเชื้อจากลูกเขยที่เดินทางมาจากจ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนจะได้ทำการกักตัวผู้สัมผัสความเสี่ยงสูงเพื่อตรวจหาเชื้อ และมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมในหมู่บ้าน รวมไปถึง หลานสาวของผู้ติดเชื้อรายแรกเดินทางไปโรงเรียนภูริตาในเขตเทศบาลตำบลเสิงสาง เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมาทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นๆ คลอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอเสิงสาง จนล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ทั้งสิ้น 19 ราย และมีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง มากกว่า 250 ราย

นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า กรณีการติดเชื้อโควิดในคลัสเตอร์นี้ นักเรียนของโรงเรียนภูริตาได้ติดเชื้อมาจากผู้ปกครอง แล้วเด็กเดินทางไปเรียนหนังสือ จนทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อ เนื่องจากนักเรียนสัมผัสกับเพื่อน ล่าสุดจากห้องเรียนระดับชั้นประถมศึกษาแพร่ลามไปถึงห้องของเด็กอนุบาล ทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ทำการตรวจหาเชื้อผู้มีความเสี่ยงสูงรายใหม่ในทุกพื้นที่ที่พบมีผู้ติดเชื้อ และรายงานล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ทั้งสิ้น 19 ราย จึงอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจกับตัวเลขของผู้ติดเชื้อมากนัก ให้ถือว่าเป็นคุณภาพของทีมงานควบคุมโรค เพราะการตรวจพบผู้ติดเชื้อและผู้มีความเสี่ยงสูงมากเท่าใด เราก็จะสามารถจบสถานการณ์ได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้ นอกจากมาตรการการควบคุมโรคแล้วทางอำเภอเสิงสางยังได้มีมาตรการเสริมต่างๆ อีกหลายด้าน ทั้งการขอความร่วมมือโรงเรียนทุกแห่งให้หยุดทำการเรียนการสอนแบบปกติ มาเป็นการสอนแบบออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์, การขอความร่วมมือปิดตลาดนัดทุกแห่ง และการระดมทุนจัดหาถุงยังชีพเพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ต้องกักตัวเอง เป็นต้น ซึ่งทุกมาตรการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี

ด้าน นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางมาจาก 15 จังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูงเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ 4 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี กับ 11 จังหวัดพื้นที่สีแดง ได้แก่ จ.นครปฐม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา สระบุรี ชลบุรี  เพชรบุรี  ตรัง  สงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ได้ฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น.– 15.00 น. ทุกวัน จะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง ที่คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ ARI Clinic และกักตัวในระหว่างรอทราบผล 24 ชั่วโมงที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา หรือที่ รพ.ปากช่องนานา อ.ปากช่อง ก่อนเดินทางเข้าบ้านหรือที่พัก ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ตนในครอบครัวและคนในหมู่บ้านชุมชน

สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ให้รีบไปรายงานตัวที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านที่มีอยู่ 15 แห่งในเขตเทศบาลนครฯ และขอความร่วมมือผู้นำพื้นที่หรือผู้นำชุมชน ได้ตรวจสอบแรงงานหรือญาติพี่น้องที่มาจากพื้นที่เสี่ยงกำลังกลับมาที่ จ.นครราชสีมา เพราะมักจะนำเชื้อโควิดกลับมาด้วย เนื่องจากขณะนี้ทุกพื้นที่ของจังหวัด จะพบการติดเชื้อและระบาดในหมู่บ้าน / ชุมชนมากขึ้นนับสิบราย เพราะไม่ได้ตรวจหาเชื้อก่อน จึงจำเป็นต้องคัดกรองทุกคนที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่เพื่อสกัดหาเชื้อทุกราย ก่อนทำการกักตัวที่บ้าน แบบแยกนอน หรือกักตัวในสถานที่ที่เตรียมไว้เป็นเวลา 14 วัน หากตรวจพบว่ามีผลเป็นบวก จะได้พาเข้าดูแลรักษาที่โรงพยาบาลทันที เพราะหนทางเดียวที่จะช่วยยับยั้งได้อย่างรวดเร็ว ไม่ให้โควิดแพร่ระบาด ก็คือ ต้องตรวจหาเชื้อผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่จังหวัดแล้วกักตัว 14 วัน ก่อนกลับเข้าบ้านและชุมชน