สมุทรปราการ-พระเอกลิเกดังปากน้ำ"ธนวัฒน์ รวงผึ้ง"สู้ไม่ถอยแม้เจอพิษโควิดเล่นงานจนประกอบอาชีพไม่ได้ หันมาไลฟ์สดร้องเพลงแลกค่าพวงมาลัยขายสินค้าหาทุนประทังชีวิต

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.นายธนวัฒน์ รวงผึ้ง อายุ 55 ปี พระเอกลิเก เจ้าของร้านอาหาร “ลิเกรำส้มตำทอด” ซึ่งเคยเปิดร้านอาหารอยู่ในต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เปิดเผยวว่า ก่อนหน้านี้ได้ทำร้านอาหารและแต่งชุดลิเกเสริฟอาหาร ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แต่ต่อมาต้องหยุดกิจการ เนื่องจากเจ้าของที่เขาเอาที่คืน พอดีกับช่วงโควิดระบาดเลยหยุดยาวมาปีนี้ปีที่ 3 แล้ว ตอนนี้ก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ชีวิต แต่ไม่รู้จะทำอาชีพอะไร ก็เลยมาคุยกับลูกชายว่าเรามีผลิตภัณฑ์สบู่อยู่ที่บ้าน มาไลฟ์สดขายของกันดีกว่า เพราะช่วงนี้ลิเกทุกคณะหยุดกันหมด ต้องทำการไลฟ์สด ร้องเพลง ขายสบู่บ้าง น้ำพริกบ้าง เพราะงานกลางแจ้ง ทุกคนโดนตัดหมด ช่วงโควิดรวมกลุ่มกันไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้เลย

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า อาชีพลิเกในปัจจุบัน ส่วนมากหันมาจับไมล์ร้องเพลง เพื่อแลกมาลัยจากคนทางบ้าน ด้วยการโอนเงินเข้ามา ถือเป็นน้ำใจตอบแทน ให้เรามีเงินได้ซื้อข้าวกิน บางวันก็แต่งชุดลิเกร้องเพลงบ้าง บางวันก็แต่งตัวธรรมดา บางคนก็ร้องเพลงไปขายน้ำพริกบ้าง ขายหมูกระจกบ้าง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย บางคนก็ส่งของปันสุขมาให้ มีทั้งมาม่า ข้าวสาร ปลากระป๋อง และยังมีลิเกที่ตกทุกข์ได้ยาก ลำบากกว่าเราก็ยังมีอยู่มาก

ทั้งนี้ ส่วนตัวก็ทำสบู่ล้างหน้ามีบริษัทสนับสนุนอยู่ก็นำมาขาย กำไรเขาก็ให้เรา และมีน้ำยาอนามัยเพื่อล้างจุดซ่อนเร้น ถ้าใครจะให้ขายอะไรก็ขายให้ ไม่ได้คิดค่าโฆษณา เพียงแต่ให้เรามีกำไร เพื่อเป็นค่าน้ำค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าข้าวบ้าง โดยจะไลฟ์สด ทุกศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เมื่อมีคนโอนค่าพวงมาลัยมาให้ ครึ่งหนึ่งก็เป็นค่าน้ำค่าไฟ อีกครึ่งก็เป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน

สำหรับ นักแสดงของเรามีทั้งหมด 5 คน แต่เนื่องจากช่วงนี้โควิดระบาด และจ.สมุทรปราการเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ก็เลยบอกเพื่อนกลุ่มลิเกว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งมารวมตัวกันเลย เดี๋ยวจะเป็นข้อครหานินทา ก็เลยขอไลฟ์สดกับลูกๆ อีก 2 คน และมีลูกบุญธรรมมาช่วยดูแลเรื่องอุปกรณ์เครื่องเสียงและเป็นตลกของคณะ

“เราเกิดมาจากลิเก เรารักลิเก เราเป็นลิเก ลูกพ่อแก่เดียวกัน เรามีกินก็เพราะลิเก แต่ช่วงนี้โควิดระบาด ใครจะมาที่บ้านก็ขอให้โควิดซาไปก่อน บ้านผมมีข้าวให้กิน มีที่ให้นอน แต่ไม่มีเงินให้ใช้ ไม่มีเงินให้ยืม และอยากให้ภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบ้าง จะหาอะไรมารองรับได้บ้าง อาชีพลิเก ศิลปะของไทยต่อไปจะอยู่กันอย่างไร “ นายธนวัฒน์กล่าว