ป.ป.ส.สอบบริษัทขายอาหารทะเลส่งไอซ์เหลวในกุ้งแข่แข็ง พบชาวฮ่องกงเป็นผู้สั่งปลายทาง ด้าน UNODC เผยสถานการณ์ยาเสพติดขยายตัวเพิ่มอย่างมากในช่วงโควิดระบาด
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) พร้อมด้วย Mr.Jeremy Douglas ผู้แทน UNODC และ นายไซม่อน ลาลิค ผู้แทนตำรวจออสเตรเลีย (AFP) แถลงความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามยาเสพติด ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส)
นายวิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการลักลอบส่งยาเสพติดทั้งไอซ์ และเฮโรอืนไปยังประเทศที่สามทั้งไต้หวันและออสเตรเลีย ขณะนี้ป.ป.ส.และบช.ปส อยู่ระหว่างการขยายผลสอบเพื่อให้ถึงผู้บงการโดย กรณีของไต้หวันที่ตรวจยึดเฮโรอีน จำนวน 440 กก. ซุกซ่อนในไม้แปรรูปที่เมืองไทเป ส่งออกจากไทยทางท่าเรือกรุงเทพฯ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการไต้หวัน ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์ และได้ทำการขยายผลสืบสวน พบว่า กลุ่มนักค้าดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีที่มีการจัดหายาเสพติดส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ อีกหลายคดี ขณะนี้ ป.ป.ส. ได้รวบรวมพยาน หลักฐาน และจะดำเนินการร้องทุกต่อพนักงานสอบสวนของตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ส่งนำตัวมาดำเนินคดีแล้ว
สำหรับ คดีล่าสุดที่ศุลกากรฮ่องกงจับกุมขบวนการลักลอบส่งไอซ์เหลว 12 กิโลกรัมปะปนไปกับถึงกุ้งแช่แข็ง โดยส่งทางสายการบิน เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทที่ส่งจดทะเบียนประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารทะเลแช่งแข็ง ระบุว่าเป็นการส่งออกกุ้งแช่แข็งจำนวน 6 ชุด น้ำหนัก 120 กิโลกรัม และลูกค้าที่สั่งของดังกล่าวเป็นชาวฮ่องกง ได้ว่าจ้างบริษัทขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ได้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นผู้ส่งสินค้าและเปิดให้เช่าตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งสินค้า ขณะนี้ได้ทราบข้อมูลหลักฐานทั้งหมดแล้วอยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้วย นายเจอรามี่ (Jeremy) กล่าวว่า ในพื้นที่รัฐฉานยังเป็นแหล่งที่มีการลักลอบนำเข้าสารสังเคราะห์และเคมีภัณฑ์เพื่อนำไปผลิตยาเสพติด ไอซ์ และเฮโรอืน ก่อนจะนำเข้ามายังประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย จะเห็นได้ว่าช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปี 2019-2021 ปัญหายาเสพติดได้ขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าเดิม จากปริมาณการจับกุมและจำนวนยาเสพติดที่จับได้เพิ่มขึ้น หากเปรียบเทียบกับแม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดใหญ่สุดของโลก
นายไซม่อน ลาลิค เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโส และคณะผู้แทนจากสำนักงานตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียเป็นตลาดที่ทำกำไรให้กับยาเสพติดได้มาก ปีที่ผ่านมามีข้อมูลสถิติการเสพไอซ์เพิ่มขึ้น 11 เท่า เช่นเดียวกับเฮโรอีนที่มีการใช้และจับกุมได้เพิ่มขึ้น แต่เราได้มุ่งมั่นทำงานร่วมกับไทยในการแจ้งเตือนและปราบปรามยาเสพติด โดยล่าสุด สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ ซึ่งเป็นเป้าหมาย 1 ใน 14 เป้าหมายรายสำคัญของทางการออสเตรเลีย และหนึ่งในนั้นเป็นสมาชิกกลุ่มมอเตอร์ไซต์นอกกฎหมายที่ชื่อ LEBELS ทั้งยังเป็นตัวการจัดหายาเสพติดจำนวนมากจากประเทศไทยและประเทศเม็กซิโกส่งเข้าไปในประเทศออสเตรเลีย
